นรสิงห์ปราบมาร พิชิตโรค
เนื้อนวโลหะครบสูตร แบบผิวเดิม (ขนาด 2X1.5 CM) รุ่นแรกในแผ่นดินแห่งองค์พระนารายณ์อวตาร มอบพร้อมหนังสือนรสิงห์ปราบมา จัดสร้างปี 2563 โดย อ.ลักษณ์ โหราธิบดี
นารายณ์อวตาร ปางที่ 4 นรสิงหาวตาร
“นรสิงห์”
นรสิงหาวตาร (NARASIMHA AVATARA) อวตารปางที่สี่ของพระนารายณ์ตอนนี้มีชื่อว่า “นรสิงหาวตาร” ซึ่งเป็นปางแรกที่พระนารายณ์อวตารลงมาในไตรยุค (Tri Yuga) ซึ่งถือว่าเป็นยุคที่ 2 ของโลกเรา อันเป็นยุคที่ความดีของมนุษย์นั้นเริ่มลดลงเหลือ 3 ใน 4 ส่วน
คำว่า “นรสิงหาวตาร” นี้มาจากคำ 3 คำมารวมกัน คือ คำว่า “นร (Nara)” ที่หมายถึง คน บวกกับคำว่า “สิงหะ (Simha)” ที่หมายถึง สิงโต และ คำว่า “อวตาร (Avatar)” ที่แปลว่า การเคลื่อนลงมายังโลกของพระนารายณ์ในรูปครึ่งคนครึ่งสิงโตนั่นเอง
เหตุการณ์ในตอนนี้เกิดขึ้นหลังจากหิรัณยากษะ (หิรันตยักษ์) ถูกพระนารายณ์ซึ่งเป็นหมูป่า สังหารไปแล้วนั้น พญายักษ์ชื่อว่า “หิรัณยกศิปุ (Hiranyakashipu)” ผู้เป็นน้องชายฝาแฝดก็ขึ้นมาเป็นใหญ่ในหมู่อสูรใต้บาดาลแทนพี่ชาย พญายักษ์ผู้นี้มีจิตใจหยาบช้ากว่าพี่ชายยิ่งนัก ได้บำเพ็ญตบะและขอพรจากพระพรหมว่า
ขออย่าให้ตนเองถูกมนุษย์ เทวดา สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายฆ่าเอาให้ตายได้
อย่าให้ตายด้วยอาวุธใด ๆ ในสากลโลก
อย่าให้ตายในเวลากลางวันหรือกลางคืน
อย่าให้ตายในบ้านหรือนอกบ้าน
ซึ่งพระพรหมธาดาก็ทรงประสิทธิ์ประสาทพรให้ตามที่ขอทุกประการ ทำให้พญาหิรัณยกศิปุมีความฮึกเหิมไม่เกรงกลัวผู้ใด แม้แต่พระผู้เป็นเจ้า สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ร้อนถึงพระวิษณุต้องอวตารลงมาเป็นนรสิงห์ เพื่อปราบหิรัณยกศิปุ
พญายักษ์หิรัณยกศิปุ ตนนี้มีโอรสองค์หนึ่งชื่อว่า “ประหลาทกุมาร” ซึ่งเป็นอสูรที่ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดี มีความจงรักภักดีต่อพระนารายณ์มหาเทพยิ่งนัก ทำให้แนวความคิดของพญาหิรัณยกศิปุนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แลพญายักษ์ก็มีความรักในโอรสยิ่งนัก เรียกได้ว่ารักดังหัวแก้วหัวแหวน ประหลาทกุมารผู้ตั้งอยู่ในศีลธรรมก็พยายามโน้มน้าวจิตใจของบิดาให้เลิกประพฤติชั่ว หันมาทำความดีมีความจงรักภักดีต่อผู้เป็นเจ้า แต่บิดาก็หาได้ฟังไม่ เที่ยวเบียดเบียนบีฑาบรรดาทวยเทพทั้งหลายให้เดือดร้อนไปทั่วทุกหัวระแหง
พระอินทร์จึงชักชวนบรรดาทวยเทพทั้งหลาย ไปขอร้องให้พระนารายณ์มหาเทพ มาช่วยปราบพญาอสูรผู้ชั่วร้ายตนนี้ เพราะไม่มีใครจะปราบมันได้ พระนารายณ์มหาเทพก็ทรงรับปากว่าจะช่วย แต่ทรงขอเวลาคิดหาหนทางปราบพญาอสูรก่อน ฝ่ายประหลาทกุมาร ผู้เป็นโอรสก็เพียรพยายามขอร้องให้บิดาเลิกเบียดเบียนผู้อื่น ฝ่ายพญาอสูรผู้บิดาก็หาเชื่อฟังไม่ จึงใช้พวกพราหมณ์อสูรทั้งหลายไปอบรมพระโอรส ให้มาเข้าข้างตนพระโอรสก็ไม่ยอม แม้จะพยายามอย่างใด พระโอรสก็ไม่ยอม
จากความรักมาก ก็กลายเป็นความชังมาก จึงสั่งให้จัดการฆ่าโอรสของตนเสีย แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ๆ ก็ไม่สามารถฆ่าโอรสของตนได้ พญาหิรัณยกศิปุจึงถามโอรสตรง ๆ ว่าพระนารายณ์มหาเทพนั้นมีจริงหรือไม่ ถ้ามีจริงและแน่จริงก็ปรากฏตัวออกมาเลย และทันใดในระหว่างนั้น เสาศิลากลางห้องท้องพระโรงก็แตกออกมา เป็นนรสิงห์
นรสิงห์เป็นครึ่งคนครึ่งสิงห์ ได้ปรากฏตัวขึ้นในเวลาสนธยาโดยแตกออกมาจากเสาศิลากลางห้องท้องพระโรงของ หิรัณยกศิปุ ปราดเข้ามาจับตัวหิรัณยกศิปุ ลากออกไปอยู่บริเวณธรณีประตู (คืออยู่ในปราสาทครึ่งตัว อยู่นอกปราสาทครึ่งตัว) และนรสิงห์ผู้นั้นก็ถามพญาอสูรว่า
ตนเป็นมนุษย์ เทวดา หรือสัตว์ พญายักษ์ตอบว่า ไม่ใช่ทั้งมนุษย์ เทวดา และสัตว์
นรสิงห์ก็ถามต่อไปว่า เวลานี้ร่างของหิรัณยกศิปุอยู่นอกเรือนหรือในเรือน พญายักษ์ตอบว่า ไม่ใช่ทั้งในเรือนและนอกเรือน
นรสิงห์ถามต่อไปอีกว่า เวลานี้เป็นกลางวันหรือกลางคืน หิรัณยกศิปุตอบว่า มิใช่ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่เป็นเวลาโพล้เพล้
นรสิงห์จึงชูมือกางกรงเล็บออกมา ถามพญายักษ์ว่า อันนี้คืออาวุธหรือไม่ พญายักษ์ก็ตอบว่าไม่
นรสิงห์จึงประกาศว่า พรทั้งหลายของพระพรหมธาดาเป็นอันเสื่อมแล้ว และตัวพญาอสูรก็ตกอยู่ในภาวะอันนอกเหนือจากพรหมประกาศิตทุกประการแล้ว
กล่าวจบ นรสิงห์ก็จัดการสังหารพญาอสูรด้วยการใช้กรงเล็บฉีกกระชากอกพญาอสูรจนถึงท้องจนขาดใจตาย
วัตถุประสงค์
ในปี 2563 เป็นที่ประเทศไทยเผชิญกับโรคระบาด คือ โรคโควิด-19 เป็นโรคระบาดที่รุนแรงและระบาดไปทั่วโลก ประกอบกับ ในช่วงปลายปี 2562 ถึงต้นปี 2563 อ.ลักษณ์ ราชสีห์ ได้เจ็บป่วยและเกิดทุกขเวทนาจากอาการเจ็บป่วยนั้น ด้วยศรัทธาที่มีต่อองค์เทพเทวา จึงได้จัดสร้าง องค์นรสิงห์ปราบมาร พิชิตโรค เพื่อให้เกิดความเป็นมงคล ให้ผ่านพ้นจากทุกข์โศกโรคภัย ขจัดความป่วยเจ็บ ความอิจฉาริษยา ขจัดคุณไสย อวิชชา มนตราทั้งหลาย
องค์นรสิงห์คือ พระนารายณ์อวตารปางที่ 4 เพื่อปราบยุคเข็ญ มาร โรคร้าย สรรพภัยที่ร้ายกาจ ต่อสามโลก ตามตำนาน
ชนวนมวลสาร
อ.ลักษณ์ โหราธิบดี ได้นำชนวนมวลสารที่เก็บเอาไว้ 15 ปี เป็นชนวนมวลสารจากเนื้อนวโลหะก้นเบ้า ก้านชนวนหล่อพระ ที่ อ.ลักษณ์ โหราธิบดี สะสมไว้ร่วม 15 ปี เนื้อโลหะแก่เงินแก่ทองคำ (ตรวจสอบได้) เป็นชนวนเหลือจากการหลอมรวมชนวนสร้างพระกริ่งสมเด็จธงชัย
พิธีพุทธาเทวามังคลาภิเษก 4 วาระ ร่วมกับพระกริ่ง / พระชัยวัฒน์สมเด็จธงชัย และพิธีนรสิงห์เทวาภิเษก ณ บ้านโหราธิบดี
มีพิธีการเททองนำฤกษ์ อธิษฐานโดย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) และมีพุทธาเทวามังคลาภิเษก 4 วาระ
วาระที่ 1 วันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2563 ณ พระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม
วาระที่ 2 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ณ พระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม
วาระที่ 3 วันที่ 2 มีนาคม 2563 ณ พระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม ในวาระ “ดาวเสาร์ (๗)” โคจรย้ายราศี
วาระที่ 4 พิธีมหาเทวาประสิทธิ์ นรสิงห์ภิเษก ณ บ้านโหราธิบดี ในวันเสาร์ 5 (วันที่ 28 มีนาคม 2563 )
วาระพิเศษ นำองค์นรสิงห์ปราบมาร พิชิตโรค ประกอบพิธีคุรุเทวะบูชา ในวัน “ดาวพฤหัสบดี (๕)” โคจรย้ายราศี ในวันที่ 17 มีนาคม 2563 ณ บ้านโหราธิบดี
รายละเอียดสินค้า
ข้อมูลสินค้า
- วัสดุสินค้า
- วัสดุอื่นๆ
- วิธีการผลิตสินค้า
- ผลิตโดยโรงงาน
- แหล่งผลิตสินค้า
- ไทย
- จำนวนในสต๊อก
- เหลือเพียง 3 ชิ้น
- อันดับสินค้า
- No.102,291 - เครื่องประดับ | No.839 - อื่นๆ
- ความนิยม
-
- ถูกชม 146 ครั้ง
- มี 0 คนถูกใจ
- สินค้าที่จำหน่าย
- สินค้าต้นฉบับ
- รายละเอียดย่อยของสินค้า
- นรสิงห์ปราบมาร พิชิตโรค
ค่าจัดส่งและรายละเอียดอื่นๆ
- ค่าจัดส่ง
- วิธีชำระเงิน
-
- บัตรเครดิต/เดบิด
- อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง/โมบายแบงค์กิ้ง
- เคาน์เตอร์เซอร์วิส
- ตู้เอทีเอ็ม
- เคาน์เตอร์ธนาคาร
- Alipay
- การคืนเงินและเปลี่ยนสินค้า
- อ่านรายละเอียดการคืนเงินและเปลี่ยนสินค้า
- แจ้งปัญหา
- รายงานสินค้าชิ้นนี้